Translate

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556


รายชื่อผู้ร่วมจัดทำประกอบไปด้วย

5590041105   นางสาวจารุวรรณ์ สุริยะสาร
559004112
   นางนวพร  สุวรรณ์


5590041121   นางลำดวน  มุ่งทำดี

5590041126   นายศรายุทธ เงาคำ 





 



 








ผู้สนใจสมัครเรียนปริญญาโท มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น


ผู้สนใจสมัครเรียนป.โท

เหตุผลที่ควรเลือกเรียน ป.โท ที่มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น จ.เชียงใหม่

1. มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ซึ่งได้รับการรับรองวิทยฐานะจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)

2. ทุกหลักสูตรร่างขึ้นโดยทีมนักวิชาการที่มีประสบการณ์มามากกว่า 30 ปีและสอนโดยคณาจารย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญโดยตรงในสาขาวิชาที่เปิดสอน


3. ดำเนินการเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศอันทันสมัย และมีแนวคิดการเรียนแบบการมีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง


4. สำนักวิทยบริการ (ห้องสมุด) มีบริการ E-Library เชื่อมต่อกับสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ ผู้เรียนสามารถสืบค้นข้อมูลด้านการศึกษาได้ทั่วโลก
5. ปริญญาโท การประกอบการ มีการสนับสนุนทางวิชาการจากศูนย์นวัตกรรม วิจัยและพัฒนาผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น ซึ่งมีองค์ความรู้จากการดำเนินโครงการอบรมพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้กับภาครัฐหลากหลายโครงการ


6.
 ปริญญาโท การประกอบการ ของมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น นับเป็นหลักสูตรสาขาการประกอบการแห่งแรกของภาคเหนือที่เปิดสอนทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท
สนใจสมัคร/ดูข้อมูลเพิ่มเติ่ม

Course Syllabus การวิจัยทางการศึกษา





THE FAR EASTERN UNIVERSITY
Course Syllabus
Subject: การวิจัยทางการศึกษา                                                        Code:  923102
Graduate School: M.Ed. (Educational Administration)                   Hours: 45   Credits: 3(3-0-6) Sec.1
Lead Facilitator :    รศ.ดร. สมศักดิ์  ภู่วิภาดาวรรธน์
Prerequisites :    -
Course Description:
923102     การวิจัยทางการศึกษา (Educational Research)                                  
หลักการวิจัย การวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ ระเบียบวิธีวิจัย การสร้างเครื่องมือ  
และการเก็บข้อมูล  การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนรายงานการวิจัย และการนำเสนอผลงานวิชาการ 
การบริโภคงานวิจัย
Course Objectives:
            1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในระเบียบวิธีวิจัย
            2. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถทำวิจัยทางการศึกษาได้
            3. เพื่อให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการวิจัย
            4. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้ผลการวิจัยสู่การจัดการศึกษาได้
Activities:
            1. บรรยาย/อภิปราย/นำเสนอผลการวิจัย
            2. ฝึกปฏิบัติกิจกรรมการวิจัย
            3. กิจกรรมกลุ่มเรียนรู้
            4. เขียนสะท้อนคิด (Refection)
Evaluation:
I. During Semester                                     80 %
·        Class participation                     10 %
·        Individual work                           20 %
·        Group work                                20 %
·        Presentation of individual            10 %
·        Project work                              20 %
2. Final Exam                                               20 %
Total                                                    100%




References:
1 Gall, M.d., Gall, J.P.&Borg, W.R.(2007). Education Research. Boston : Pearson.
2. Gay, L.R. (1992). Education Research, 4th ed. New York : Macmilan Publishing Company.
3. Salkind, N.J.(2006). Exploring Research 6th ed. New Jersey : Pearson Prentice Hall.


COURSE SCHEDULE
923102 วิจัยทางการศึกษา      
(Educational Research)
Academic Year 1/2012
Date
Time
Topic
Facilitator(s)
Saturday
September 1, 2012
9.00-16.30

-       Introduction to Ed. Research
-       Classification of Research

Saturday
September 8, 2012
9.00-16.30

-       Research Problem
-       Research Hypothesis

Saturday
September 15, 2012
9.00-16.30

-       Sampling Techniques
-       Selection of Measuring Instruments

Saturday
September 22, 2012
9.00-16.30

-       Research Method and Procedures.
(non-experimental research)

Saturday
September 29, 2012
9.00-16.30

-       Research Method and Procedures.
(experimental research)

Saturday
October 6, 2012
9.00-16.30

-   Data Analysis and Interpretation

Saturday
October 13, 2012
9.00-16.00

-       Research Reports
-       Research Critiques



















วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัย



มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น
มหาวิทยาลัยแห่งเส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการ 
(Gateway to Entrepreneurship)

                มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (ทบวงมหาวิทยาลัย) จัดตั้งขึ้นในชื่อ " วิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น" เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2542 และได้สถาปนาสถาบันขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 โดยได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจาก สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดสถาบันอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2544

ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2549 จึงได้รับอนุญาตเปลี่ยนสถานภาพเป็น มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น หรือ The Far Eastern University และได้จัดพิธีสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยขึ้นในวันที่ 8 พฤษภาคม 2549

มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้คนไทยมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น มีความรู้ความสามารถในระดับที่สามารถแข่งขันทัดเทียมกับประเทศต่าง ๆ ในยุคโลกาภิวัฒน์ ก้าวทันเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีความเป็นสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมุ่งให้การศึกษาที่ก้าวทันต่อความก้าวหน้าเชิงธุรกิจ กอปรด้วยความรู้ทางการบริหารจัดการและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น จึงมีปณิธานและมุ่งมั่นที่จะเป็นสถาบันอุดมศึกษาสำหรับชนในสหัสวรรษใหม่ที่เตรียมบัณฑิตให้มีความเพียบพร้อมในการดำรงชีวิต การทำงาน มีจิตสำนึกแห่งความเป็นผู้ประกอบการ โดยอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรมและจิตสำนึกแห่งความเป็นไทย

ปรัชญา ปณิธาน เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และพันธกิจ

ปรัชญา

เลิศคุณธรรม ล้ำปัญญา สร้างคุณค่าคนสมบูรณ์
มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเชื่อมั่นว่าผู้ที่มีความพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม
 และปัญญา จะนำพาไปสู่ความสมบูรณ์แห่งตน

ปณิธาน

มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนานักศึกษาให้เป็นผู้มีความรู้ 
มีจิตสำนึกและสมรรถนะของความเป็นผู้ประกอบการทีมีคุณธรรม มัปัญญา
เพื่อเป็นคนที่สมบูรณ์

อัตลักษณ์ของผู้เรียน

นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นมีคุณลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการ
ที่มีความซื่อสัตย์ รู้ผิดชอบชั่วดี ยึดมั่นในความถูกต้องเที่ยงธรรม

เอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นมหาลัยแห่งเส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการ
 (Gateway to Entrepreneurship)

พันธกิจ

มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นจะดำเนินการตามภารกิจหลัก 4 ประการ ได้แก่ 
การจัดการเรียนการสอน การวิจัย การบริการชุมชน การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
 และสร้างมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเป็นสังคมแห่งการเป็นผู้ประกอบการ

ชมภาพวิดิทัศน์การเริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น



บทความ เรื่องการบริหารงานวิชาการ


การบริหารงานวิชาการ
             การบริหารงานวิชาการเป็นงานที่สำคัญสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นงานที่จะต้องปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอน  ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายหลักของสถานศึกษาและเป็นเครื่องชี้ความสำเร็จ  และความสามารถของผู้บริหาร
             การบริหารงานวิชาการ  หมายถึง  การบริหารกิจกรรมทุกชนิดในสถานศึกษา หรือโรงเรียนเกี่ยวกับการปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอนให้ได้ผลดี  และมีประสิทธิภาพที่สุด เพราะเป็นหน้าที่ของสถานศึกษาทุกแห่ง  คือ การให้ความรู้ทางด้านวิชาการแก่ผู้เรียน
             การบริหารงานวิชาการประกอบด้วยงานหลายอย่าง  สิ่งสำคัญของงานด้านวิชาการ คือ หลักสูตรเป็นตัวกำกับงานด้านวิชาการ  ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้นำ  ในการนำไปใช้ในแต่ละสถานศึกษาจึงแตกต่างกันไป       การจัดโปรแกรมการศึกษาจึงขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น  บุคลากร  งบประมาณ  วัสดุอุปกรณ์  รวมทั้งผู้เรียนด้วย

1. ความสำคัญของการบริหารงานวิชาการ
            งานวิชาการเป็นหัวใจของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา  ส่วนงานด้านอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบที่จะทำให้สถาบันดำเนินไปด้วยความราบรื่นเท่านั้น  ผู้บริหารการศึกษาทุกคนควรจะรับผิดชอบเป็นผู้นำของครูในด้านวิชาการเป็นอันดับแรก  เพราะหน้าที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกแห่ง คือ  การให้ความรู้แก่นักเรียนในด้านวิชาการ  โดยการทำงานร่วมกับครู  กระตุ้นเตือนครูให้คำแนะนำครู  และประสานงานให้ครูทุกคนทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพในการสอน  งานวิชาการเป็นงานหลักของการบริหารสถานศึกษา  ไม่ว่าสถานศึกษาจะเป็นประเภทใด  มาตรฐานและคุณภาพของสถานศึกษาจะพิจารณาได้จากผลงานด้านวิชาการ  เนื่องจากงานวิชาการเกี่ยวข้องกับหลักสูตร  การจัดโปรแกรมการศึกษา  และการจัดการเรียนการสอน  ซึ่งเป็นหัวใจของสถานศึกษาซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องทางตรงหรือทางอ้อม ก็อยู่ที่ลักษณะของงานนั้น
                ดังนั้นอาจสรุปได้ว่า   งานวิชาการถือว่าเป็นหัวใจของการบริหารการศึกษา เพราะจุดมุ่งหมายของสถานศึกษาก็คือ  การจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ  ซึ่งขึ้นอยู่กับงานวิชาการทั้งสิ้น  งานวิชาการเป็นกิจกรรมการจัดการเกี่ยวกับงานด้านหลักสูตร  การนำหลักสูตรไปใช้  แบบเรียน  งานการเรียนการสอน  งานสื่อการเรียนการสอน  งานวัดผลและประเมินผล  งานห้องสมุด  งานนิเทศการศึกษา  งานวางแผนการศึกษา  และงานประชุมอบรมทางวิชาการ  เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนบรรลุจุดหมายของการศึกษาที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ขอบข่ายของการบริหารงานวิชาการ
                งานวิชาการมีขอบข่ายครอบคลุมเกี่ยวกับงานด้านหลักสูตร  และการเรียนการสอน  ตั้งแต่การวางแผนเกี่ยวกับงานวิชาการ        การจัดดำเนินงาน       เกี่ยวกับการเรียนการสอน        การจัดบริการ   การสอน  ตลอดจนการวัด และประเมินผล  รวมทั้งติดตามผล และสื่อการสอนรวมไปถึงการพัฒนาผู้สอนตลอดจนการดำเนินกิจการของโรงเรียนจะต้องเป็นไปตามหลักสูตร  และระเบียบพิธีการของการเรียนการสอน  จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมทุกระยะ  ด้วยการจัดเนื้อหาวิชาให้ทันสมัย  บางครั้งก็มีการเพิ่มวิชาใหม่ ๆ เข้าไปด้วย   ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียนอย่างแท้จริงนั้น เกิดจากการเรียนการสอน  ดังนั้น  เมื่อหลักสูตรเปลี่ยนก็จำเป็นต้องอบรมครูตามไปด้วย  เพราะการใช้หลักสูตรในโรงเรียนจะมีส่วนเกี่ยวโยงไปถึงการจัดตารางสอน การจัดชั้นเรียน  วิธีสอน   การใช้อุปกรณ์การสอนและการประเมินผลด้วย       ถ้ามองในด้านของงานสถานศึกษา  การบริหารงานวิชาการ ได้แก่  งานควบคุมดูแลหลักสูตร  การสอน  อุปกรณ์การสอน  การจัดการเรียน  คู่มือครู  การจัดชั้นเรียน  การจัดครูเข้าสอน  การปรับปรุงการเรียนการสอน  การฝึกอบรมครู  การนิเทศการศึกษา การเผยแพร่งานวิชาการ  การวัดผลการศึกษา การศึกษาวิจัย  การประเมินมาตรฐานสถานศึกษาเพื่อปรับปรุงคุณภาพ  และประสิทธิภาพสถานศึกษา
                จะเห็นได้ว่า  งานวิชาการเป็นงานที่มีขอบข่ายครอบคลุมหลายด้าน  อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพแก่ผู้เรียนทุกด้าน  ซึ่งสามารถสรุปขอบเขตของงานวิชาการได้ดังนี้  งานการจัดหลักสูตร  งานการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน  งานการใช้วิธีการสอน และการใช้สื่อการเรียนการสอน  งานการวัดผลการเรียนการสอน และการนิเทศการสอน
 3. หลักการบริหารงานวิชาการ
                ในการบริหารงานวิชาการจะต้องมีหลักการและวิธีการดำเนินงาน  เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหาร  ดังนั้นในหลักการเบื้องต้นของการบริหารจึงต้องมีข้อความชัดเจนในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
                3.1 ยึดหลักให้สถานศึกษาจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาให้เป็นไปตามกรอบหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน และสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชนและสังคมอย่างแท้จริง  โดยมีครู  ผู้บริหาร  ผู้ปกครอง  และชุมชนมีส่วนร่วม
                3.2 มุ่งส่งเสริมสถานศึกษาให้จัดกระบวนการเรียนรู้  โดยถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
                3.3 มุ่งส่งเสริมให้ชุมชนและสังคมมีส่วนร่วมในการกำหนดหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้รวมทั้งเป็นเครือข่ายและแหล่งการเรียนรู้
                3.4 มุ่งจัดการศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยจัดให้มีดัชนีชี้วัดคุณภาพการจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ และสามารถตรวจสอบคุณภาพการจัดการศึกษาได้ทุกช่วงชั้นทั้งระดับเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา
                3.5 มุ่งส่งเสริมให้มีการร่วมมือเป็นเครือข่าย  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการจัดและพัฒนาคุณภาพการศึกษา

หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต

หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
Master of Education Program in Educational Administration
(หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2553)
****************************

1.      ชื่อหลักสูตร
ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
Master of Education Program in Educational Administration

2.      ชื่อปริญญา
                         ชื่อเต็มภาษาไทย                 ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารการศึกษา)
                                ชื่อย่อภาษาไทย                   ศษ.ม. (การบริหารการศึกษา)
ชื่อเต็มภาษาอังกฤษ            Master of Education (Educational Administration)
                                ชื่อย่อภาษาอังกฤษ              M.Ed. (Educational Administration)

3.      หน่วยงานที่รับผิดชอบ
คณะศึกษาศาสตร์  มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น

4.      เหตุผลในการขอเสนอเปิดหลักสูตร
          สังคมไทยมีความเป็นนานาชาติมากยิ่งขึ้น                 
            ด้วยการเปลี่ยนแปลงในบริบทของสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าสู่บริบทของอาเซียนซึ่งทำให้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและวิธีการดำเนินงานในการพัฒนาประเทศเข้าสู่บริบทซึ่งต้องสร้างคนให้เข็มแข็งพร้อมที่จะแข่งขันได้ นอกจากนั้นการติดต่อค้าขายและการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านจะมีความสำคัญต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ การติดต่อสื่อสารจะทำได้โดยสะดวกจากการอาศัยเส้นทาง R3A ซึ่งเชื่อมประเทศต่างๆเข้าด้วยกัน อาทิ ประเทศลาว พม่า จีน เวียดนาม กัมพูชา สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่ออนาคตของคนในชาติซึ่งต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว  ดังนั้น ผู้บริหารการศึกษาจึงจะมีส่วนสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้คนในชาติเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ  ผู้บริหารจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถในการจัดการกับบริบทของสังคมที่มีความเป็นนานาชาติมากยิ่งขึ้น ต้องมีทักษะในการบริหารจัดการความหลากหลายได้ดี สามารถสร้างความร่วมมือท่ามกลางการแข่งขันได้

         การปฏิรูปการศึกษา
            วัตถุประสงค์หลักของการปฏิรูปการศึกษา คือการทำให้คนเรียนรู้ตลอดชีวิต ดังนั้นหัวใจสำคัญในการผลิตผู้บริหารคือการผลิตผู้บริหารการศึกษาที่เข้าใจและทราบวิธีการขับเคลื่อนสังคมแห่งการเรียนรู้
     การสนองตอบต่อผลกระทบของโลกาภิวัฒน์
            เมื่อบริบททางสังคมเข้าสู่กระแสโลกาภิวัฒน์ ทำให้สังคมเกิดปัญหาที่ซับซ้อน คนเก่งมีจำนวนมากขึ้นแต่มิติของความเป็นคนลดลง จึงเกิดกระแสการเรียกร้องคุณธรรมในท่ามกลางความเจริญของวัตถุ ความพอเพียงจึงเป็นจุดหมายของการสร้างจิตสำนึกให้เกิดกับผู้บริหารการศึกษาเพื่อผลักดันให้เกิดขึ้นแก่เยาวชนของชาติ
     ความหย่อนยานของจรรยาบรรณในวิชาชีพ
          สาเหตุสำคัญของปัญหาหลายๆประการที่เกิดขึ้นในวงการศึกษาปัจจุบันนั้น ก่อกำเนิดมาจากการขาดจรรยาบรรณในวิชาชีพ ธรรมาภิบาลในสังคมและองค์การทางการศึกษาจึงขาดหายไป ดังนั้นการฟื้นฟูและสร้างคนให้มีความเข็มแข็งในจิตใจ ในการรักษาและดำรงไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น การผลิตผู้บริหารการศึกษาจึงเป็นการผลิตเพื่อให้ได้คนสำหรับอนาคต ให้มีความคิดและความสามารถที่ทันสมัย เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในองค์การได้และมีความสามารถในการบริหารจัดการทรัพยากรทางการศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด

  5. ปรัชญาหลักสูตร
หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต  สาขาวิชาการบริหารการศึกษา นี้ตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่า  การพัฒนาองค์การทางการศึกษาให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยผ่านกระบวนการบริหารการศึกษาที่มีประสิทธิภาพจะเป็นหลักประกันคุณภาพการศึกษาของประชาชนได้

  6. วัตถุประสงค์หลักสูตร
            หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมหาบัณฑิตให้มีคุณลักษณะดังต่อไปนี้
            (1) เป็นผู้มีสมรรถนะในการเป็นนักบริหารการศึกษาที่มีคุณธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพ
            (2) เป็นผู้มีความรู้ ความสามรถในการทำงานวิจัย และนำงานวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการศึกษาได้  ตลอดจนมีความสามารถในการค้นหาความรู้ได้ด้วยตนเอง
            (3 ) เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาได้ 



ประสบการณ์การมาเรียนฟาร์อีสเทอร์น

วีดีโอ หนังสั้นความประทับใจในการมาเรียนที่

มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น